อัปเดตภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 67 ต้องเสียเท่าไร และจ่ายเมื่อไร
เทศกาลจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ประชาชนที่ต้องเสียภาษี แต่พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ต้องคำนวณและจัดเก็บภาษีที่ดินให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่นเช่นเดียวกัน ดังนั้นมาอัปเดตกันดีกว่าว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 ท้องถิ่นจะต้องแจ้งตอนไหน ผู้เสียภาษีต้องจ่ายเมื่อไร และจ่ายเท่าไรบ้าง
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 ต้องจ่ายเมื่อไร
ปกติแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อปท. จะต้องแจ้งการประเมินภาษีให้ผู้เสียภาษีทราบภายในกุมภาพันธ์ แต่ปีนี้กระทรวงมหาดไทยได้ขยายเวลาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 ออกไปอีก 2 เดือน มาดูสรุปกำหนดการแบบเข้าใจง่าย ๆ กันครับว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 ต้องแจ้งเมื่อไร จ่ายตอนไหน ผ่อนอย่างไร และเตือนแบบใดได้บ้าง
1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบภายในเดือนมกราคม 2567 จากเดิมภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และอัตราภาษีที่จัดเก็บก่อน 1 เมษายน 2567 จากเดิมจะต้องก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2567
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษีให้ผู้เสียภาษีภายในเดือนเมษายน 2567 จากเดิมจะต้องเป็นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
4. ผู้เสียภาษีต้องชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนมิถุนายน 2567 จากเดิมจะต้องจ่ายภาษีภายในเดือนเมษายน 2567
5. ผู้เสียภาษีสามารถผ่อนชำระภาษีที่ดินฯ ได้ 3 งวดด้วยกัน ดังนี้
- งวดที่ 1 ชำระภายในเดือนมิถุนายน 2567 จากเดิมภายในเดือนเมษายน 2567
- งวดที่ 2 ชำระภายในเดือนกรกฎาคม 2567 จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2567
- งวดที่ 3 ชำระภายในเดือนสิงหาคม 2567 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2567
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องออกหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษีที่มีภาษีค้างชำระภายในเดือนกรกฎาคม 2567 จากเดิมภายในพฤษภาคม 2567
7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะแจ้งรายการภาษีค้างชำระให้สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานที่ดินสาขาภายในเดือนสิงหาคม 2567 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2567
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 ต้องเสียภาษีเท่าไร
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 นั้น ปีนี้จะต้องจ่ายแบบเต็ม ไม่มีลดหย่อน 15% แบบปีก่อนแล้วนะครับ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้สำรวจ คำนวณภาษี ประกาศแจ้ง และเรียกจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 ไปยังผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ ซึ่งอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 แบบคร่าว ๆ มีดังนี้ครับ
1. ที่ดินเพื่อการทำเกษตรกรรม
ที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการทำเกษตรกรรมตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยกำหนด ไม่ว่าจะทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ และกิจการอื่น ๆ ตามที่กำหนด จะจัดเก็บในอัตรา 0.01-0.1% และมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 0.15%
หากเป็นบุคคลธรรมดาและมีที่ดินเพื่อการเกษตรมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากเกินก็จะได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก แต่หากเป็นนิติบุคคลก็จะเสียตามอัตราปกติครับ
2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย
ที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยจะแบ่งออกเป็น 3 กรณีด้วยกัย โดยจะจัดเก็บในอัตรา 0.02-0.1% และมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 0.30%
- บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับยกเว้นภาษี แต่ถ้าเกินจะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรกเท่านั้น ส่วนที่เกินจะเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้
- บุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน แต่เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี 10 ล้านบาทแรก แต่หากเกิน ส่วนที่เกินจะต้องเสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด
- บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป ตั้งแต่หลังที่สองจะต้องเสียภาษีที่ดินฯ ตามอัตราที่กำหนด โดยไม่ได้รับการยกเว้นภาษีที่ดินฯ แบบบ้านหลังหลัก
3. ที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์อื่น
ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย แต่เป็นการใช้ประโยชน์อื่น เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โรงแรม หอพัก บ้านเช่า ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย เป็นต้น จะจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในอัตรา 0.3-0.7% โดยมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 1.20%
4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์
ที่ดินที่ปล่อยให้รกร้าง ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ จะมีจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในอัตรา 0.3-0.7% เท่ากับใช้ประโยชน์อื่น แต่ความแตกต่างอยู่ที่หากปล่อยให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างรกร้างนาน 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 0.3% ในทุก ๆ 3 ปีจากอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนด แต่เพดานภาษีสูงสุดจะต้องไม่เกิน 3%
เทคโนโลยี ตัวช่วยสนับสนุนงานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ท้องถิ่น
ทราบอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 แล้ว ผู้เสียภาษีไม่ต้องกังวลไปว่าจะต้องคำนวณภาษีที่ดินฯ เอง แต่เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะเป็นผู้สำรวจ คำนวณภาษี แจ้งการประเมินภาษี ตลอดจนจัดเก็บภาษีที่ดินฯ เพื่อนำรายได้มาพัฒนาท้องถิ่นตามเป้าหมายที่วางไว้
เพื่อให้การสำรวจการใช้ประโยชน์ของที่ดิน การคำนวณภาษีที่ดินฯ การแจ้งประกาศ รวมถึงระบบการเรียกเก็บ การชำระภาษี และการติดตามภาษีที่ดินฯ มีประสิทธิภาพ ถูกต้องครบถ้วน สะดวกต่อการจ่ายภาษี ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียภาษี ลดปัญหาการคัดค้านหรือแก้ไข รวมถึงช่วยโน้มน้าวให้ผู้เสียภาษีร่วมมือร่วมใจจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามเวลาที่กำหนด จึงทำให้ในปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการประยุกต์เอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยสนับสนุนงานในส่วนนี้ เช่น การแจ้งประชาสัมพันธ์บนช่องทางออนไลน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้ระบบการชำระภาษีออนไลน์ เพื่อให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีได้สะดวกขึ้น รวมถึงระบบภาษีอัจฉริยะ เพื่อการบริหารจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบองค์รวม ที่ใช้เทคโนโลยีการสำรวจและ AI ช่วยสำรวจและประเมินการใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตรวจสอบเอกสาร วิเคราะห์ ตลอดจนช่วยจัดเก็บภาษี พร้อมติดตามสถานะ เป็นต้น
ดังนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถตอบโจทย์การเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยกระดับสู่เมืองอัจฉริยะด้วยข้อมูล เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในระดับเมือง และต่อยอดสู่การพัฒนาเมืองได้ด้านอื่นอย่างหลากหลายมิติ