อัปเดตภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ต้องเสียเท่าไร และจ่ายเมื่อไร

เทศกาลจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างวนกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ประชาชนที่ต้องเสียภาษี แต่พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ต้องคำนวณและจัดเก็บภาษีที่ดินให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่นเช่นเดียวกัน ดังนั้นมาอัปเดตกันดีกว่าว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ท้องถิ่นจะต้องแจ้งตอนไหน ผู้เสียภาษีต้องจ่ายเมื่อไร และจ่ายเท่าไรบ้าง
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ต้องจ่ายเมื่อไร
สำหรับการแจ้งการประเมินภาษีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อปท. นั้น ปีนี้กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศขยายกำหนดเวลาดำเนินการจัดเก็บภาษีประจำปี 2568 ออกไป เพื่อให้การดำเนินการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อประชาชน และช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดการภารกิจได้อย่างครบถ้วน มาดูสรุปกำหนดการแบบเข้าใจง่าย ๆ กันครับว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ต้องแจ้งเมื่อไร จ่ายตอนไหน ผ่อนอย่างไร และเตือนแบบใดได้บ้าง
1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบภายในเดือนมกราคม 2568 จากเดิมภายในเดือนพฤศจิกายน 2567
2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และอัตราภาษีที่จัดเก็บก่อน 1 เมษายน 2568 จากเดิมจะต้องก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2568
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษีให้ผู้เสียภาษีภายในเดือนเมษายน 2568 จากเดิมจะต้องเป็นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
4. ผู้เสียภาษีต้องชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนมิถุนายน 2568 จากเดิมจะต้องจ่ายภาษีภายในเดือนเมษายน 2568
5. ผู้เสียภาษีสามารถผ่อนชำระภาษีที่ดินฯ ได้ 3 งวดด้วยกัน ดังนี้
- งวดที่ 1 ชำระภายในเดือนมิถุนายน 2568 จากเดิมภายในเดือนเมษายน 2568
- งวดที่ 2 ชำระภายในเดือนกรกฎาคม 2568 จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2568
- งวดที่ 3 ชำระภายในเดือนสิงหาคม 2568 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2568
6. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องออกหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษีที่มีภาษีค้างชำระภายในเดือนกรกฎาคม 2568 จากเดิมภายในพฤษภาคม 2568
7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะแจ้งรายการภาษีค้างชำระให้สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานที่ดินสาขาภายในเดือนสิงหาคม 2568 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2568
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ต้องเสียภาษีเท่าไร
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 นั้น ปีนี้จะจ่ายแบบปีที่แล้ว ใครปล่อยให้ที่ดินรกร้างเกิน 3 ปี จะต้องจ่ายเพิ่มเท่าตัว ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้สำรวจ ประเมินภาษี ประกาศแจ้ง และเรียกจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ไปยังผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง ผู้ทำประโยชน์ และผู้เช่าซื้อในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ โดยมีอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 แบบคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
1. ที่ดินเพื่อการทำเกษตรกรรม
ที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการทำเกษตรกรรมตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยกำหนด ไม่ว่าจะทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ และกิจการอื่น ๆ ตามที่กำหนด จะจัดเก็บในอัตรา 0.01-0.1% และมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 0.15%
หากเป็นบุคคลธรรมดาและมีที่ดินเพื่อการเกษตรมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากเกินก็จะได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก แต่หากเป็นนิติบุคคลก็จะเสียตามอัตราปกติครับ
2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย
ที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยจะแบ่งออกเป็น 3 กรณีด้วยกัน โดยจะจัดเก็บในอัตรา 0.02-0.1% และมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 0.3%
- บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับยกเว้นภาษี แต่ถ้าเกินจะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรกเท่านั้น ส่วนที่เกินจะเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้
- บุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน แต่เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี 10 ล้านบาทแรก แต่หากเกิน ส่วนที่เกินจะต้องเสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด
- บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป ตั้งแต่หลังที่สองจะต้องเสียภาษีที่ดินฯ ตามอัตราที่กำหนด โดยไม่ได้รับการยกเว้นภาษีที่ดินฯ แบบบ้านหลังหลัก
3. ที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์อื่น
ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย แต่เป็นการใช้ประโยชน์อื่น เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โรงแรม หอพัก บ้านเช่า ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย เป็นต้น จะจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในอัตรา 0.3-0.7% โดยมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 1.2%
4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์
ที่ดินที่ปล่อยให้รกร้าง ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ จะมีจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในอัตรา 0.3-0.7% เท่ากับใช้ประโยชน์อื่น แต่ความแตกต่างอยู่ที่หากปล่อยให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างรกร้างนาน 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 0.3% ในทุก ๆ 3 ปีจากอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนด แต่เพดานภาษีสูงสุดจะต้องไม่เกิน 3%
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการยกเว้นและลดหย่อนภาษี 2568
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดหย่อนภาษี ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในกิจการผลิตสาธารณูปโภคหรือสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไปตามการประกาศฯ อย่างที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้าและที่เกี่ยวเนื่อง สถาบันการเงิน สถานศึกษา สถานที่ให้บริการแก่ประชาชน กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา รวมถึงที่ได้รับจากมรดก โดยในปี 2568 นี้ ได้มีการประกาศปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2568 เพิ่มเติม ได้แก่
- โรงผลิตน้ำประปา
ปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% ให้แก่ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงผลิตน้ำประปา รวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับการผลิตน้ำประปา เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์ กิจการ หรือสภาพแห่งท้องที่
- พื้นที่สีเขียว
ยกเว้นภาษีทีดินฯ ให้แก่ที่ดินซึ่งปกคลุมด้วยพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลักและมีประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศการดำรงชีวิต หรือคุณภาพชีวิตของประชาชน
- ทางรถไฟฟ้า
เพิ่มเติมการยกเว้นภาษีให้กับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นทางรถไฟหรือทางรถไฟฟ้า เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานมากขึ้น ได้แก่ ห้องอุปกรณ์อาณัติสัญญาณภายในสถานี ห้องควบคุมระบบบังคับสัมพันธ์ภายในสถานี ห้องอุปกรณ์สื่อสารภายในสถานี และชานชาลาสถานีเฉพาะพื้นที่ที่ผู้โดยสารรอขึ้น-ลงรถไฟฟ้า
เทคโนโลยี ตัวช่วยสนับสนุนงานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ท้องถิ่น
ทราบอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 แล้ว ผู้เสียภาษีไม่ต้องกังวลไปว่าจะต้องคำนวณภาษีที่ดินฯ เอง แต่เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะเป็นผู้สำรวจ คำนวณภาษี แจ้งการประเมินภาษี ตลอดจนจัดเก็บภาษีที่ดินฯ เพื่อนำรายได้มาพัฒนาท้องถิ่นตามเป้าหมายที่วางไว้
เพื่อให้การสำรวจการใช้ประโยชน์ของที่ดิน การคำนวณภาษีที่ดินฯ การแจ้งประกาศ รวมถึงระบบการเรียกเก็บ การชำระภาษี และการติดตามภาษีที่ดินฯ มีประสิทธิภาพ ถูกต้องครบถ้วน สะดวกต่อการจ่ายภาษี ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียภาษี ลดปัญหาการคัดค้านหรือแก้ไข รวมถึงช่วยโน้มน้าวให้ผู้เสียภาษีร่วมมือร่วมใจจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามเวลาที่กำหนด จึงทำให้ในปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการประยุกต์เอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยสนับสนุนงานในส่วนนี้ เช่น การแจ้งประชาสัมพันธ์บนช่องทางออนไลน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้ระบบการชำระภาษีออนไลน์ เพื่อให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีได้สะดวกขึ้น รวมถึงระบบภาษีอัจฉริยะ เพื่อการบริหารจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบองค์รวม ที่ใช้เทคโนโลยีการสำรวจและ AI ช่วยสำรวจและประเมินการใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตรวจสอบเอกสาร วิเคราะห์ ประเมินภาษี ตลอดจนช่วยจัดเก็บภาษี พร้อมติดตามสถานะ เป็นต้น
การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 อีกทั้งยังช่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ยกระดับสู่เมืองอัจฉริยะด้วยข้อมูล เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในระดับเมือง และต่อยอดสู่การพัฒนาเมืองในหลากหลายมิติ