บินสำรวจ 5 สนามบินอัจฉริยะ ยกระดับความปลอดภัย การจัดการ และประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยี

ปัจจุบันสนามบินนานาชาติหลายแห่งกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ “สนามบินอัจฉริยะ (Smart Airport)” ด้วยการผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ความปลอดภัย สร้างประสบการณ์ที่ดีและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร
เบดร็อค อนาไลติกส์ จะพาบินลัดฟ้าไปสำรวจตัวอย่างของสนามบินชั้นนำระดับโลก ที่โดดเด่นในการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนพัฒนาสนามบินในหลากหลายมิติ
1. สนามบินชางงี (Changi Airport)
ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี (Changi Airport) ของสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดย สกายแทร็กซ์ (Skytrax) บริษัทจัดอันดับสายการบินและสนามบินทั่วโลก สนามบินแห่งนี้ไม่ได้ขึ้นชื่อแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก ด้วยการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น
- ไบโอเมตริกซ์ (Biometric) ตรวจคนเข้าเมือง: กำลังอยู่ในช่วงทดสอบการใช้ระบบสแกนใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาในการตรวจสอบผู้โดยสารเข้าประเทศ โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง เพื่อลดเวลาการรอคอยและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ภายในเวลาเพียง 10 วินาที
- ระบบติดตามสัมภาระด้วย RFID: ใช้เทคโนโลยี RFID ในการติดตามกระเป๋าแบบเรียลไทม์ ลดปัญหากระเป๋าสูญหาย และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสัมภาระ
- หุ่นยนต์นำทาง: มีหุ่นยนต์คอยช่วยเหลือผู้โดยสารในการค้นหาประตูทางออกหรือจุดบริการต่าง ๆ ภายในสนามบิน
- แอปพลิเคชัน Changi App: แอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลเที่ยวบิน, เช็กอินออนไลน์ และข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน
- Jewel Changi Airport: พื้นที่ศูนย์การค้าระดับโลกในสนามบิน ออกแบบให้มีความสวยงามทางธรรมชาติ และใช้ระบบอัจฉริยะในการบริหารพลังงานและการรักษาความปลอดภัย
2. สนามบินนานาชาติฮาหมัด (Hamad International Airport)
สนามบินนานาชาติฮาหมัด (Hamad International Airport) ของกาตาร์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยสกายแทร็กซ์ (Skytrax) มีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีมายกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการภายในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็น
- ประตูอิเล็กทรอนิกส์ไบโอเมตริกซ์ Biometric e-Gates): ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าหรือม่านตาเพื่อยืนยันตัวตนในการตรวจคนเข้า-ออกเมืองอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- หุ่นยนต์อัจฉริยะให้ข้อมูลและนำทาง: หุ่นยนต์บริการผู้โดยสารภายในสนามบิน ทั้งการตอบคำถามทั่วไปและนำทางไปยังจุดต่าง ๆ
- การวิเคราะห์ด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data): รวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในสนามบิน แล้วนำไปประกอบการวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงการให้บริการ เช่น การบริหารจัดการเวลา จุดรอคอย และเส้นทางการเดินทางภายในสนามบิน
3. สนามบินอิสตันบูล (iGA Istanbul Airport)
ท่าอากาศยานอิสตันบูล (iGA Istanbul Airport) ในตุรกี สนามบินนานาชาติชั้นนำระดับโลกที่มีผู้ใช้งานมหาศาล มีการนำหลากหลายเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เพื่อสร้างสรรค์สนามบินอัจฉริยะ ยกระดับการบริหารจัดการ และมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น
- Wi-Fi ฟรี: บริการอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดและฟรีทั่วพื้นที่สนามบิน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูล และใช้แผนที่นำทางภายในสนามบิน
- อุปกรณ์แปลภาษาแบบเรียลไทม์: บริการอุปกรณ์แปลภาษาแบบเรียลไทม์กระจายทั่วสนามบิน รองรับมากถึง 50 ภาษา 70 สำเนียง รวมทั้งยังมีบริการแปลภาษาในแอปพลิเคชัน Istanbul Airport ได้ถึง 7 ภาษา
- Smart Dashboard และ Digital Twin: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning ทำให้เกิดเป็น Smart Dashboard และ Digital Twin ที่ช่วยในการบริหารจัดการและการบริการในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการความหนาแน่นของผู้คน การดูแลความปลอดภัย หรือการสนับสนุนการตัดสินใจ
- ระบบ DMAN (Departure Manager): ระบบการจัดลำดับการออกเดินทางในน่านฟ้าของสนามบิน ตั้งแต่ตำแหน่งจอดเครื่องบินจนถึงเวลาที่เครื่องบินออกเดินทาง ช่วยลดการรอคอย รักษาเวลา และลดปัญหาความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่การเคลื่อนตัว
- หอคอยไซเบอร์ (Cyber Tower): ที่ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ จะมีหอคอยแสดงผลข้อมูลทะเบียนเครื่องบินและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เครื่องลงจอดบนรันเวย์ โดยตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ
- ระบบจดจำใบหน้า: ใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์จดจำใบหน้าในการตรวจคนเข้า-ออกเมือง ช่วยให้การเดินทางรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- หุ่นยนต์ช่วยเหลือและรักษาความปลอดภัย: หุ่นยนต์ให้ความช่วยเหลือในการเดินทาง และคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยทั่วสนามบิน
- ระบบจดจำป้ายทะเบียน: เทคโนโลยีจดจำป้ายทะเบียน ช่วยตรวจจับยานพาหนะที่น่าสงสัย ก่อนที่จะเข้ามายังพื้นที่จอดรถของสนามบิน
- AI ดูแลการบำรุงรักษาและอุณหภูมิ: นำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการคาดการณ์เวลาที่เหมาะสมสำหรับการบำรุงรักษารันเวย์ รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิในห้องสำคัญให้เหมาะสมอยู่เสมอ
4. สนามบินดูไบ (Dubai International Airport)
ท่าอากาศยานดูไบ (Dubai International Airport) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นอีกหนึ่งสนามบินระดับโลกที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในทุกส่วนของสนามบิน เพื่อให้การเดินทางสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- ประตูอัจฉริยะ (Smart Gate): ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือแทนการตรวจเอกสาร ช่วยให้การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น
- IoT เชื่อมต่อทั้งสนามบิน: มีเครือข่าย IoTเชื่อมต่อทุกระบบ ตั้งแต่การตรวจคนเข้าเมืองไปจนถึงการจัดการสัมภาระ
- ระบบติดตามสัมภาระอัจฉริยะ: ผู้โดยสารสามารถติดตามสัมภาระของตัวเองได้ ผ่านแอปพลิเคชัน
- เครื่องบริการตนเอง: ตู้บริการตนเองติดตั้งอยู่ทั่วอาคารผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเช็กอิน ฝากสัมภาระ และเลือกที่นั่งได้ด้วยตนเอง
- บริการความบันเทิงเสมือนจริง: สนามบินมีโซนและนิทรรศการเสมือนจริง ที่ผสมผสานเทคโนโลยีมาสร้างความบันเทิงและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้โดยสาร
- AI ช่วยในการบริการจัดการและวางแผน: นำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการคาดการณ์ความต้องการของผู้โดยสาร ให้คำแนะนำการเดินทางส่วนตัว และวางแผนการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน
-ยานยนต์ไร้คนขับ: เป็นพื้นที่ทดสอบการใช้ยานยนต์ไร้คนขับ เช่น รถแท็กซี่ไร้คนขับ
5. สนามบินฮีทโธรว์ (Heathrow Airport)
สนามบินฮีทโธรว์ (Heathrow Airport) ในลอนดอน สหราชอาณาจักร นำเทคโนโลยีทันสมัยมาจัดการการเดินทางที่ซับซ้อนของผู้โดยสารจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น
- AI ควบคุมการจราจรทางอากาศ: ทดลองใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า “เอมี่ (Amy)” เพื่อช่วยควบคุมการจราจรทางอากาศและการดำเนินงานในสนามบินแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้ระบบเครือข่ายกล้องความละเอียดสูงและเรดาร์ในการสร้างภาพ ติดตามตำแหน่ง และรับุรายละเอียดของเครื่องบินแบบเรียลไทม์ ทำให้การจัดการจราจรทางอากาศมีความแม่นยำ ปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการตัดสินใจให้แก่ผู้ควบคุม
- ไบโอเมตริกซ์ตรวจคนเข้าเมือง: ใช้ระบบสแกนใบหน้าเพื่อตรวจคนเข้าเมือง ช่วยเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยในการผ่านด่านตรวจ
- จัดการทรัพยากรด้วยการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่: นำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อจัดการทรัพยากรในสนามบิน เช่น การจัดคิวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง การจัดการพื้นที่จอดเครื่องบินให้เป็นระบบ
สำหรับประเทศไทยเองก็มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในสนามบิน เพื่อยกระดับ “สนามบินอัจฉริยะ (Smart Airport)” อย่าง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ก็นำระบบไบโอเมตริกซ์สแกนใบหน้ามาใช้ในการยืนยันตัวตนแทนการใช้บัตรโดยสาร (Boarding Pass) สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วน “ท่าอากาศยานดอนเมือง” ใช้โซลูชัน Trolley Management Platform จัดการรถเข็นสัมภาระภายในสนามบินแบบครบวงจร ทำให้วางแผน จัดสรร และควบคุมปริมาณรถเข็นในแต่ละจุดได้แบบเรียลไทม์ ยกระดับการบริการและจัดการทรัพยากรของสนามบินให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่อีเมล: [email protected] หรือ LINE หรือ Facebook
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
https://www.thesun.co.uk/travel/31380733/worlds-best-airport-new-tech-passport-security-biometrics
https://airport.online/dubai-airport/en/dubai-airport-innovation-and-technology
https://www.aerotime.aero/articles/iga-istanbul-airport-technology-innovation
https://www.innovation.ink/stories/biometrics-in-airports