ชวนดูตัวอย่างจริง โครงการยกระดับ Smart Economy จากท้องถิ่นทั่วไทย ที่ทำตามได้ไม่ยาก

ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีคือกุญแจสำคัญสู่การสร้างเศรษฐกิจอัจฉริยะ หรือ Smart Economy ซึ่งหมายถึงเมืองที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ พร้อมสร้างให้เกิดความเชื่อมโยงและความร่วมมือทางธุรกิจ และประยุกต์ใช้นวัตกรรมในการพัฒนาเพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจ เช่น เมืองเกษตรอัจฉริยะ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ เป็นต้น

เบดร็อค อนาไลติกส์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้สอดรับกับยุคสมัย จึงได้รวบรวมตัวอย่างโครงการพัฒนาเศรษฐกิจอัจฉริยะของท้องถิ่นทั่วไทยจากคู่มือพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะ เพื่อให้แต่ละท้องถิ่นเห็นภาพชัดเจนว่าการขับเคลื่อน Smart Economy สามารถเริ่มต้นได้จากโครงสร้างพื้นฐานรอบตัว

1. บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Free Wi-Fi)

บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Free Wi-Fi) คือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ท้องถิ่นเดินหน้าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอัจฉริยะ หรือ Smart Economy ได้จริง การติดตั้งจุด Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ โรงเรียน ศูนย์ราชการ หรือสถานีขนส่ง จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้ เครื่องมือดิจิทัล และบริการภาครัฐได้สะดวกขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอาชีพเดิม สนับสนุนอาชีพใหม่ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยั่งยืน

ตัวอย่างจากเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา

เทศบาลนครยะลาให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ Free Wi-Fi จำนวน 183 จุดครอบคลุมทั่วเขตเมืองยะลา เช่น ศูนย์เยาวชนฯ สนามช้างเผือก สวนขวัญเมือง สวนมิ่งเมือง วงเวียนหอนาฬิกา สถานีขนส่ง ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มในเมืองยะลาเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี และเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล

2. ระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service: OSS)

One-Stop Service (OSS) หรือระบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ จะช่วยให้ท้องถิ่นก้าวสู่เศรษฐกิจอัจฉริยะได้อย่างเป็นรูปธรรม และส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้อย่างยั่งยืน ซึ่งระบบนี้เป็นการรวมบริการของท้องถิ่นไว้ในที่เดียว ทั้งการแจ้งเหตุ ร้องเรียน จองคิว รับคำแนะนำ ไปจนถึงการชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ โดยช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย โดยไม่จำเป็นต้องหยุดงานเพื่อเดินทางมาสำนักงาน

ตัวอย่างจากเทศบาลตำบลบ้านกลาง จ.ลำพูน

เทศบาลตำบลบ้านกลางร่วมกับเบดร็อค อนาไลติกส์ พัฒนาโครงการ One Stop Service ให้ครบวงจรมากขึ้น ด้วยการใช้ระบบ Bellme เป็นเทคโนโลยีการแจ้งเหตุและจัดการปัญหาออนไลน์ ทำให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและติดตามสถานะได้สะดวกผ่านทาง LineOA และเว็บไซต์ของเทศบาล ขณะที่หน่วยงานก็ให้ข้อมูลถูกต้อง สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วและตรงจุด ที่สำคัญทำให้ทางเทศบาลได้รางวัล Smart City Solutions Award 2024 ด้านการบริหารภาครัฐอัจฉริยะ ระดับดีด้วย

3. ระบบขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์

ระบบขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์ อีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน Smart Economy ระดับท้องถิ่น เพราะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และลดภาระของประชาชนในการติดต่อภาครัฐ โดยระบบนี้จะช่วยให้สามารถยื่นคำร้อง แก้ไข ตรวจสอบสถานะ ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคารได้ทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่าย และลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ยังทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดข้อผิดพลาด และสร้างความโปร่งใสในกระบวนการอนุญาต

ตัวอย่างจากเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา

เทศบาลนครยะลาและเบดร็อค อนาไลติกส์ ร่วมกันพัฒนาระบบขออนุญาตและควบคุมอาคารอัจฉริยะ โดยมี AI ช่วยตรวจสอบเอกสารแบบอัตโนมัติ สามารถติดตามงานผ่านระบบแบบเรียลไทม์ พร้อมตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน ทำให้ประชาชนและนักลงทุนสามารถยื่นคำร้องได้สะดวก รวดเร็ว แก้ไขเอกสารง่าย ลดต้นทุนการพิมพ์ และมั่นใจในความโปร่งใส ส่งผลให้การให้บริการของเทศบาลมีความทันสมัย โปร่งใส ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน

4. ระบบขนส่งสาธารณะในเมือง

ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองที่มีการจัดระบบให้มีเส้นทางที่แน่นอน ค่าโดยสารชัดเจน และตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ คืออีกหนึ่งกลไกสำคัญในการพัฒนา Smart Economy เพราะช่วยลดต้นทุนการเดินทาง เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งงาน ลดปัญหาการจราจร ลดมลพิษในเมือง อีกทั้งยังเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ แหล่งที่อยู่อาศัย และสถานศึกษาได้อีกด้วย

ตัวอย่างจากเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่นจัดทำ “ขอนแก่นซิตี้บัส” ระบบบริการขนส่งสาธารณะในเมืองขอนแก่นเพื่อเชื่อมต่อสถานที่สำคัญและพื้นที่รอบนอกเมือง โดยเป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศที่คิดค่าบริการถูก มีกำหนดเส้นทางการเดินรถที่แน่นอน มีระบบติดตามตำแหน่ง (GPS) ให้ตรวจสอบเส้นทางได้ และรองรับการเก็บค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสาร ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ หรือสแกน QR Code

5. แพลตฟอร์มกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

แพลตฟอร์มกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV Platform) อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนา Smart Economy เนื่องจากความปลอดภัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการใช้ชีวิต การลงทุน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเมือง การจัดทำระบบกล้องวงจรปิดที่เชื่อมโยงกับศูนย์บัญชาการให้สามารถดูภาพเรียลไทม์ได้ทั่วเมือง จะช่วยให้ท้องถิ่นเฝ้าระวังเหตุการณ์และตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุนด้วย

ตัวอย่างจากวังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง

วังจันทร์วัลเลย์ผสานการทำงานของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ปัญญาประดิษฐ์ และแพลตฟอร์มการแสดงผลภาพแบบเรียลไทม์ในการยกระดับความปลอดภัย ลดผลกระทบ และแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ที่รวดเร็ว ทั้งตรวจจับใบหน้าเพื่อระบุตัวบุคคล ตรวจจับทะเบียนรถ วางแผนจราจร คำนวณคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงแจ้งเตือนควันไฟ เมื่อตรวจพบความผิดปกติ จึงช่วยสร้างความปลอดภัยควบคู่กับการสร้างความมั่นใจให้คนในพื้นที่และผู้ประกอบการ

6. แพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (City Data Platform: CDP)

แพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (City Data Platform: CDP) โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำคัญที่จะช่วยให้ท้องถิ่นก้าวสู่การบริหารแบบอัจฉริยะ รองรับ Smart Economy ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้จะรวบรวมข้อมูลเมืองในทุกมิติไว้ในฐานข้อมูลกลาง พร้อมทั้งเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ทำให้การวางแผน การตัดสินใจ และการบริหารจัดการเมืองมีความแม่นยำ โปร่งใส ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

ตัวอย่างจากเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับเบดร็อค อนาไลติกส์ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (City Digital Data Platform: CDDP) ที่รวบรวม จัดเก็บ และเชื่อมโยงข้อมูลเมืองกว่า 100 ชั้น เพื่อใช้ในการคาดการณ์สถานการณ์ การวางแผนนโยบายและแผนการพัฒนาเมืองที่ตรงจุดสอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการสังคม สาธารณสุข การบริหารจัดการเมือง สิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดการและคาดการณ์ภัยพิบัติด้วย

โครงการพัฒนาเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) จากท้องถิ่นทั่วไทย สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากเทคโนโลยีขั้นสูงหรือต้นทุนที่แพงมหาศาลเสมอไป แต่ต้องเริ่มจากเทคโนโลยีที่เหมาะสม ตรงจุด โดยอาจเริ่มจากการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา เพื่อช่วยปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ในชุมชน หากสนใจดูตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดฟรี “คู่มือพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะ” จากเบดร็อค อนาไลติกส์

ขอบคุณภาพประกอบ

https://www.facebook.com/share/p/1GQArqDGyr/

https://www.facebook.com/kkcitybus/photos

https://www.facebook.com/WangchanValleyOfficial