แนวทางการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนหลังเกิดอุทกภัย ที่ท้องถิ่นนำไปฟื้นเมืองให้สะอาดและปลอดภัยได้จริง

ปัญหาขยะระหว่างและหลังอุทกภัย อีกหนึ่งความท้าทายใหญ่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งจากขยะมูลฝอยทั่วไป ถังขยะที่ถูกน้ำพัด รถเก็บขยะเข้าไม่ถึง หรือสถานที่กำจัดขยะได้รับความเสียหาย อีกทั้งภายหลังน้ำลดยังมีขยะจากทรัพย์สินที่ชำรุดเพิ่มเติมด้วย ทำให้ภาระด้านการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนของท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้น
เบดร็อค อนาไลติกส์ จึงรวบรวมแนวทางแก้ไขปัญหาขยะหลังอุทกภัยจากกรมควบคุมมลพิษ เพื่อช่วยให้ท้องถิ่นวางระบบจัดการขยะได้ถูกวิธี ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ และบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมได้
1. การเตรียมแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนตั้งแต่ก่อนเกิดอุทกภัย
การแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมความพร้อมก่อนเกิดอุทกภัย เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสม และลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การวางแผนล่วงหน้าที่ดีจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดหลังเกิดอุทกภัย อีกทั้งยังทำให้การฟื้นฟูหลังน้ำลดเป็นไปอย่างมีระบบ โดยองค์ประกอบสำคัญของการเตรียมการ ได้แก่
- ประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและระดับความรุนแรง เพื่อคาดการณ์พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ รวมถึงประเมินปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้น นำไปสู่การวางแผนจัดเก็บและกำจัดขยะได้อย่างเหมาะสม
- ศึกษาขั้นตอนและแนวทางการจัดการขยะในภาวะอุทกภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมอนามัย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของท้องถิ่น ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือ และขั้นตอนการดำเนินงาน
- จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาจากอุทกภัย เพื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่ของผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน จะได้สามารถประสานงานและตัดสินใจได้ทันต่อสถานการณ์
- วางแผนการจัดการขยะมูลฝอยในช่วงระหว่างและหลังเกิดอุทกภัย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ เช่น แผนการจัดเก็บขยะ, การเตรียมพื้นที่รองรับขยะชั่วคราว, การเคลื่อนย้ายถังและรถเก็บขยะ, รวมถึงแนวทางคัดแยกขยะก่อนขนย้าย

2. การนำแผนไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนระหว่างเกิดอุทกภัย
เมื่อเกิดอุทกภัย ท้องถิ่นจะต้องนำแผนการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาใช้ เพื่อให้สามารถควบคุมและลดผลกระทบจากปัญหาขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในช่วงเกิดอุทกภัย ระบบการจัดเก็บและขนถ่ายขยะมักหยุดชะงัก ถนนหนทางไม่สามารถสัญจรได้ ที่สำคัญขยะที่อยู่กับน้ำอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เกิดกลิ่นเหม็น และเกิดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมตามมา แนวทางที่ท้องถิ่นควรดำเนินการ ได้แก่
- จัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยประเมินจากระดับความรุนแรงของน้ำท่วม ปริมาณขยะ และจำนวนประชากรในพื้นที่ เพื่อวางแผนจัดเก็บและขนย้ายขยะอย่างเร่งด่วนในจุดที่มีความเสี่ยงสูง
- รวบรวม เก็บขน และคัดแยกขยะมูลฝอยอย่างเป็นระบบ ควรจัดหาเรือท้องแบนหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเก็บขยะจากที่อยู่อาศัยหรือจุดพักขยะชั่วคราวในพื้นที่น้ำท่วม แล้วขนถ่ายไปยังรถเก็บขยะเพื่อนำไปกำจัดต่อไป เพื่อลดการสะสมของขยะในพื้นที่น้ำท่วมขัง
- คัดแยกขยะอันตรายออกจากขยะทั่วไป เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ หรือสารเคมี เพื่อป้องกันการรั่วไหลของสารพิษสู่สิ่งแวดล้อมและน้ำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน
- ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนมีส่วนร่วม โดยแจ้งแนวทางการทิ้งขยะที่ถูกวิธีในช่วงอุทกภัย เช่น การมัดถุงขยะให้แน่น การแยกขยะชิ้นใหญ่ หรือขยะที่อาจเป็นอันตราย เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

3. การแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนหลังเกิดอุทกภัย
หลังน้ำลดและสถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ขยะจะกลายเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ท้องถิ่นต้องเร่งจัดการ เนื่องจากมักมีปริมาณขยะสะสมเป็นจำนวนมาก ทั้งขยะตกค้างในช่วงเกิดน้ำท่วม ขยะจากการฟื้นฟูบ้านเรือน สิ่งของที่เสียหายจากน้ำท่วม ขยะเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้จะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้ ดังนั้น จึงมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
- เร่งเก็บกวาดและขนย้ายขยะที่ตกค้างออกจากพื้นที่ทันที เพื่อเปิดทางให้ประชาชนฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมได้โดยเร็ว ลดความเสี่ยงด้านสุขอนามัยและปัญหาสิ่งแวดล้อม
- คัดแยกขยะมูลฝอยที่สถานที่กำจัดหรือลานพักขยะชั่วคราว โดยยึดหลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle) เพื่อแยกขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดและช่วยประหยัดงบประมาณของท้องถิ่น
- ประเมินความเสียหายและปริมาณขยะที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนบริหารจัดการขยะในอนาคต รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่รองรับหรือเครื่องมือให้เพียงพอในกรณีเกิดอุทกภัยซ้ำ
- สรุปและประเมินผลการดำเนินงาน โดยเปรียบเทียบกับแผนที่ได้จัดทำไว้ ทั้งในด้านกระบวนการจัดการ ระยะเวลา และงบประมาณ เพื่อปรับปรุงแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การวางแผนและจัดการปัญหาขยะในชุมชนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังเกิดอุทกภัย ไม่เพียงช่วยให้พื้นที่กลับมาสะอาด ปลอดโรค และน่าอยู่ แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการบริหารจัดการเมืองอย่างยั่งยืนสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
หากท้องถิ่นสนใจนำเทคโนโลยีมาช่วยในการวางแผนและการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชน เช่น การประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ติดตามสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์ หรือสร้างฐานข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อสรุปผลและวางแผนเชิงรุก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แพลตฟอร์มจัดการพิบัติ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ ติดต่อเบดร็อค อนาไลติกส์ได้ที่อีเมล: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook
ขอบคุณข้อมูล:
https://www.pcd.go.th/wp-content/uploads/2020/05/pcdnew-2020-05-27_09-06-06_484726.pdf