ซีแอตเทิล เมือง Smart Living ที่ทุกคนเดินสะดวกด้วยนวัตกรรม
Technology
เคล็ดลับสำคัญที่ซีแอตเทิล เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งการเดินเท้าสะดวก เข้าถึงระบบขนส่งสบาย ก็คือการนำข้อมูลและนวัตกรรมมาใช้ในการออกแบบทางเท้าเพื่อทุกคน เมืองนี้มีแนวคิดอย่างไร และทำอย่างไรให้ชีวิตคนในเมือง Smart Living ด้วยการเดินได้ขนาดนี้ มาดูกัน
ซีแอตเทิล เมืองที่เดินสะดวกติดอันดับโลก
ซีแอตเทิล (Seattle) เมืองที่อยู่ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีระบบการคมนาคมขนส่งดี การเดินทางสะดวก บ้านเมืองสะอาด มีความปลอดภัย ผู้คนในเมืองมีชีวิตแบบ Smart Living โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ตั้งสำนักงานอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Getty Images, Costco, Microsoft, Nintendo, Starbucks เป็นต้น
ปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดการลงทุนให้ซีแอตเทิล ก็คือการคมนาคมและการเดินทางสะดวกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่เพียงแค่ระบบขนส่งมวลชนสะดวกสบายเท่านั้น แต่การเดินเท้าก็ยังสะดวกสบายสำหรับทุกคน จากข้อมูลใน Walkscore.com พบว่า ซีแอตเทิลได้รับคะแนน Walk Score (การเดินเท้า) มากถึง 74 คะแนน และคะแนน Bike Score (การใช้จักรยาน) มากถึง 71 คะแนน ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้เมืองแห่งนี้เดินเท้าได้ง่าย ปลอดภัยกับทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ก็คือการนำข้อมูลและนวัตกรรมมายกระดับพื้นที่สาธารณะในเมือง โดยอาศัย 4 แนวทางสำคัญที่จะช่วยสร้าง Smart Living ให้เกิดขึ้นจริง ได้แก่
1. บูรณาการระบบดิจิทัลเข้ากับระบบดั้งเดิม: ซีแอตเทิลนำเทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลหลายชั้นข้อมูลมาบูรณาการใช้ในการให้ข้อมูลผู้ที่สัญจรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่
2. สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน: นอกจากการให้ข้อมูลที่ดีแล้ว ยังออกแบบป้ายให้ข้อมูลและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้มีเอกลักษณ์ที่สะท้อนจุดเด่นของแต่ละพื้นที่
3. การออกแบบสำหรับทุกคน: ซีแอตเทิลนำเทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบทางเท้าให้ทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงวัย ให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
4. การวางระบบที่ดี: ก่อนที่จะพัฒนาหรือดำเนินการตามนโยบาย ซีแอตเทิลได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง วางแผนระบบและมาตรฐาน เพื่อให้ได้แนวทางการพัฒนาเมืองแบบองค์รวมที่ดีที่สุด มีความสอดคล้องกัน และเห็นภาพตรงกัน
โครงการบูรณาการนวัตกรรมเพื่อออกแบบทางเท้าในซีแอตเทิล
ตัวอย่างโครงการน่าสนใจที่ซีแอตเทิลนำนวัตกรรม ข้อมูล และวิถีชีวิตของคนในเมืองมาบูรณาการกัน เพื่อพัฒนาทางเท้าที่ทุกคนสามารถใช้งานได้สะดวก โดยเฉพาะเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ จนสามารถสร้าง Smart Living และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในเมืองได้สำเร็จ
โครงการ Seamless Seattle
ซีแอตเทิล ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2035 จะต้องมีคนเดินเท้า 35% ของการสัญจรในเมือง กรมการขนส่งของซีแอตเทิล (SDOT) จึงจัดทำนโยบาย “Seamless Seattle” เป็นนโยบายที่อาศัยข้อมูลในการวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงกายภาพ ด้วยการจัดทำป้ายบนถนนและทางเท้าทั่วเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในเมือง ทั้งแผนที่เมือง ข้อมูลสายรถเมล์ รถไฟ เส้นทางลาดชัน ข้อมูลงานศิลปะตามพื้นที่สาธารณะหรืออนุสาวรีย์ต่างๆ
ซึ่งความพิเศษของป้ายเหล่านี้ก็คือ มีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบดิจิทัลที่ปรับแต่งเองได้ รวมถึงยังรองรับหลายภาษา คำนึงถึงผู้พิการทางสายตาด้านการทำอักษรเบรลล์ที่ป้ายด้วย
แผนที่ AccessMap
ซีแอตเทิล มีนวัตกรรมแผนที่ที่ชื่อว่า “AccessMap” พัฒนาโดยศูนย์ The Taskar Center for Accessible Technology (TCAT) จาก The University of Washington ซึ่งเป็นแผนที่ทางเท้าหรือสำหรับเดินของเมืองที่สามารถบอกแผนที่ทางเท้าอย่างละเอียด เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพราะมีโหมดแนะนำเส้นทางที่เหมาะสมและการใช้งานที่แตกต่างกันทั้งผู้ที่นั่งวีลแชร์ทั้งแบบปกติ ไฟฟ้า รวมถึงคนที่ใช้ไม้เท้าหรือไม้ค้ำยัน โดยคำนวณจากความลาดชันของทางลาดและขอบทาง สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.accessmap.io/
โครงการ OpenSidewalks
โครงการ “OpenSidewalks” เป็นโครงการข้อมูลเปิด เพื่อให้ทุกคนหรือทุกหน่วยงานสามารถเข้าถึงข้อมูล เพื่อนำไปค้นคว้าและพัฒนาทางเท้าที่ออกแบบเพื่อทุกคน โดยเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างนครซีแอตเทิล กรมการขนส่งของซีแอตเทิล (SDOT) ศูนย์ The Taskar Center for Accessible Technology (TCAT) และหน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. Geological Survey) ซึ่งเป็นข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลในเรื่องความกว้างและความสูงของทางเท้า ตำแหน่งของราวจับ สิ่งกีดขวางบนทางเท้า และไฟจราจรสำหรับทางเท้า
เมืองที่ออกแบบให้ทุกคนเดินได้ของซีแอตเทิล เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการนำนวัตกรรมและข้อมูลเข้ามาใช้สร้าง Smart Living ให้กับคนในเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยที่อยากเริ่มต้นสร้างเมืองที่เดินได้สำหรับทุกคนแบบซีแอตเทิล อาจเริ่มจากการดูแลถนนและทางเท้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมใช้งานตลอดเวลา ด้วยการนำระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะมาใช้
ระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะ
ระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะ หรือ Smart Asset Management ที่พัฒนาโดย Bedrock คือเครื่องมือช่วยจัดการและวางแผนวงรอบและการวางแผนรอบการบำรุงรักษาของสินทรัพย์ โดยมีปัญญาประดิษฐ์ (Al) ช่วยตรวจจับ จำแนก และแจ้งเตือนสถานะทรัพย์สินแบบเรียลไทม์ ซึ่งมี Dashboard และรายงานภาพรวมการบำรุงรักษาทรัพย์สินและผลการบำรุงรักษาทรัพย์สิน เพื่อนำข้อมูลไปสู่การวางแผนงบประมาณ การจัดสรร และการออกแบบถนน ทางเท้า และระบบขนส่งสาธารณะที่ตอบโจทย์และเหมาะสม ช่วยสร้าง Smart Living ให้กับคนในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ต้องการนำระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะมาขับเคลื่อนท้องถิ่น ยกระดับ Smart Living ให้ประชาชน สามารถปรึกษาการวางแผนและใช้บริการได้ที่อีเมล: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook
ขอบคุณข้อมูล:
-https://www.opensidewalks.com