ทำไมการเก็บภาษีเทศบาลในท้องถิ่นถึงไม่ถูกต้อง มาสำรวจ 5 ปัญหาสำคัญ พร้อมแนวทางแก้ไข

ทำไมท้องถิ่นพัฒนาไปได้ไม่สุด ทำไมรายได้ที่จัดเก็บภาษีเทศบาลถึงดูน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำลังหาคำตอบกันอยู่ เรามาหาคำตอบกันว่าอุปสรรคที่แท้จริงที่ทำให้จัดเก็บภาษีน้อยลงคืออะไร แล้วจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง

มาเริ่มกันที่เช็กลิสต์อุปสรรคที่ทำให้จัดเก็บภาษีเทศบาลได้น้อยลงกันก่อนว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้รายได้จากเก็บภาษีเทศบาลไม่มีประสิทธิภาพมาจากอุปสรรคเหล่านี้หรือไม่

1. บุคลากรไม่สอดคล้องกับปริมาณงาน

นายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการและดูแลท้องถิ่นในทุกมิติ ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีภาระงานที่หลากหลายและปริมาณมาก หนึ่งคนอาจจะต้องดูแลงานหลายส่วน บางครั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินภาษีเทศบาลหรือด้านการสำรวจก็มีไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่จะต้องดูแล จึงต้องใช้ระยะเวลานานในแต่ละกระบวนการจัดเก็บภาษีเทศบาลที่มีประสิทธิภาพ

2. การประชาสัมพันธ์ไม่ชัดเจนและไม่ทั่วถึง

การประเมินและจัดเก็บภาษีเทศบาลมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เช่น เรื่องเอกสารที่ต้องยื่นเสียภาษี วิธีการเสียภาษี หลักการประเมิน ความสำคัญของภาษีเทศบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากไม่มีการอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ และใช้ช่องทางที่หลากหลาย ก็จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ไม่เข้าใจ และไม่ยื่นเสียภาษีก็เป็นได้

3. กฎหมายและขั้นตอนมีความซับซ้อน

การจัดเก็บภาษีเทศบาลมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายและข้อกำหนดหลายส่วน อีกทั้งยังต้องอัปเดตให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ประกอบกับขั้นตอนในการประเมินและการจัดเก็บภาษีมีความซับซ้อน หลากหลายขั้นตอน ทั้งการสำรวจ การตรวจสอบ การประเมิน การชำระภาษี เป็นต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความรัดกุม ใช้ดุลยพินิจ และใช้เวลา มิฉะนั้นอาจเกิดข้อผิดพลาดจัดเก็บภาษีเทศบาลได้ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงได้

4. ข้อมูลไม่อัปเดตหรือน้อยเกินไป

หลายครั้งการสำรวจพื้นที่หรือลงภาคสนามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะใช้แรงคน เช่น การเดินสอบถามตามบ้าน การขับรถสำรวจ จึงต้องใช้เวลานานกว่าจะรวบรวมจนครบพื้นที่ในเขตที่รับผิดชอบ รวมถึงอาจสำรวจได้ไม่ครบถ้วนด้วย ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องประเมินภาษี ข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่เป็นปัจจุบันและไม่ถูกต้องก็เป็นได้ ไม่เพียงเท่านั้นอุปสรรคส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากประชาชนอีกด้วย ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงเสี่ยงที่จะจัดเก็บภาษีเทศบาลไม่ถูกต้องครบถ้วนได้

5. ขาดความร่วมมือจากประชาชน

  เมื่อประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจ ไม่เห็นความสำคัญในการจ่ายภาษีเทศบาล จึงทำให้ประชาชนบางกลุ่มไม่จ่ายภาษีเทศบาล เพราะไม่ทราบขั้นตอน ไม่รู้ว่าต้องจ่าย รวมถึงประชาชนบางกลุ่มอาจกลัวการเสียภาษีเทศบาล จึงไม่ให้ข้อมูลตามความเป็นจริงกับเจ้าหน้าที่หรือหลีกเลี่ยงภาษีได้

วิธีลดอุปสรรคในการจัดเก็บภาษีเทศบาลได้น้อย

เงินที่ได้จากจัดเก็บภาษีเทศบาล ถือเป็นรายได้สำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากจัดเก็บภาษีเทศบาลได้น้อย ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด หรืออาจพัฒนาท้องถิ่นไม่ได้ตามแผนพัฒนาประจำปีที่วางไว้ เนื่องจากงบประมาณไม่เป็นไปตามที่คาดหวังว่าจะได้จากการเก็บภาษีเทศบาลนั่นเอง

ฉะนั้นหากท้องถิ่นของคุณพบกับอุปสรรคตามที่เรากล่าวมา ทางออกที่จะทำให้การจัดเก็บภาษีเทศบาลได้อย่างถูกต้องครบถ้วน จึงต้องอาศัยหลายปัจจัยร่วมกันทั้งจำนวนเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ฐานข้อมูลที่ครอบถ้วน ถูกต้อง และอัปเดต รวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันมีที่ชื่อว่าระบบภาษีอัจฉริยะ (Smart Municipal Tax) ที่สามารถลดอุปสรรคของการจัดเก็บภาษีเทศบาลในทุกปัจจัยไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

ระบบภาษีอัจฉริยะ (Smart Municipal Tax) จาก Bedrock ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ช่วยประเมินภาษีเทศบาลให้เจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาในเรื่องบุคลากร ฐานข้อมูล และเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนได้ด้วย โดยระบบภาษีอัจฉริยะ เป็นระบบแสดงผลข้อมูลการสำรวจที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และป้าย พร้อมช่วยจัดเก็บภาษีและประเมินราคาภาษีแบบครบวงจร ตั้งแต่การยื่นแบบฟอร์มคำร้องออนไลน์ การตรวจสอบยอดชำระ การติดตามสถานะ และสนับสนุนการสำรวจของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันยังรองรับการบริการภาคประชาชน ด้วยการอำนวยความสะดวกในการชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาษีร่วมกับเจ้าหน้าที่ผ่านระบบด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังออกแบบ Dashboard สรุปภาพรวม เพื่อให้ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการบริหารจัดการและวางแผนการจัดเก็บภาษีเทศบาลอีกด้วย โดยภายในจะประกอบไปด้วย 2 ระบบหลักคือ ระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัจฉริยะ และระบบภาษีป้ายอัจฉริยะ

สำหรับเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่ในระบบภาษีอัจฉริยะ ก็คือเทคโนโลยีการสำรวจภาคพื้นดิน ทางอากาศ และดาวเทียม อีกทั้งยังมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยระบุตำแหน่งและเก็บข้อมูลสำคัญแบบละเอียด แม่นยำ อัปเดตเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ พร้อมส่งต่อการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลแบบอัตโนมัติไปยังระบบทะเบียนทรัพย์สิน ที่สำคัญยังมี AI ที่ทำหน้าที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ระบุรายละเอียดเจ้าของ สถานะ และการเปลี่ยนแปลง รวมถึงช่วยให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่เมื่อพบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้สามารถประเมินภาษีเทศบาลได้รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่เกิดการทำงานซ้ำซ้อน ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถอธิบายและเพิ่มความมั่นใจในการเรียกเก็บภาษีเทศบาลจากประชาชนได้มากขึ้นด้วย

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ต้องการจัดเก็บภาษีเทศบาลได้ถูกต้องครบถ้วน นำรายได้ไปพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ระบบภาษีอัจฉริยะ คืออีกเครื่องมือหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครัน สนใจสามารถติดต่อได้ที่อีเมล: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook