ยกระดับการจัดการน้ำท่วมให้ครบวงจร ด้วยแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ จากเบดร็อค อนาไลติกส์
น้ำท่วมหรืออุทกภัยเป็นหนึ่งในภัยพิบัติส่งผลกระทบกับทุกภูมิภาคของไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เมื่อไม่สามารถที่จะควบคุมสภาพอากาศได้ ทำให้การคาดการณ์น้ำท่วมและการลดผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเรื่องสำคัญ
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือช่วยจัดการปัญหาได้หลากหลายอย่าง บริษัท เบดร็อค อนาไลติกส์ จำกัด ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลและโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ของไทย จึงพัฒนาแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ เพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขช่องว่างในการจัดการน้ำท่วมอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเกิด ระหว่างเกิด และหลังเกิดภัยพิบัติ
แพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ ช่วยจัดการน้ำท่วมคืออะไร
แพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ จากเบดร็อค อนาไลติกส์ เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภัยพิบัติสำหรับท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า เป็นต้น ที่นำเทคโนโลยีมาบูรณาการเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บ รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูล ไปจนถึงการวิเคราะห์ แจ้งเตือน สรุปผล สนับสนุนการปฏิบัติการ ที่สำคัญสามารถคาดการณ์พื้นที่เสี่ยง คาดการณ์ผลกระทบจากภัยพิบัติ และคำนวณเส้นทางในการเข้าช่วยเหลือได้
แพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติช่วยจัดการน้ำท่วมได้อย่างไร
ปัจจัยการเกิดน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติตอบโจทย์การบริหารจัดการน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่ได้ดี เนื่องจากมีกระบวนการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะกับพื้นที่นั้น ๆ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ การสรุปผล การคาดการณ์ การแจ้งเตือน และการปฏิบัติการ
1. จัดเก็บข้อมูล
เบดร็อค อนาไลติกส์ มีเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โดยหลังจากประชุมสรุปปัญหาและหารแนวทางในการแก้ไขแล้ว จะทำการคัดสรรเทคโนโลยี แล้วลงพื้นที่จัดเก็บ รวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ติดตั้งระบบโทรมาตรตรวจวัดระดับน้ำอัตโนมัติในจุดที่เหมาะสม อย่างสถานีสูบน้ำ พื้นที่ต้นน้ำ หรือที่อื่น ๆ อีกทั้งยังนำโดรนหรือหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ควบคุมและบินได้มาสำรวจและบันทึกภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่จุดวัดระดับน้ำที่ไม่ได้ติดตั้งระบบโทรมาตรอัตโนมัติ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดทำข้อมูลของท้องถิ่นและที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลควบคู่ไปกับการจัดเก็บข้อมูลภาคสนาม โดยเฉพาะข้อมูลครัวเรือน เพื่อนำมาใช้ในการจัดลำดับความสำคัญการช่วยเหลือและอพยพ
2. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
เทคโนโลยีในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลที่เบดร็อค อนาไลติกส์นำมาใช้สามารถส่งต่อและนำเข้าข้อมูลอัตโนมัติที่เรียลไทม์และถูกต้อง ไปยังแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง ด้านการจัดการภัยพิบัติ จากเบดร็อค อนาไลติกส์ เพื่อใช้ปัญญาประดิษฐ์และ Machine Learning ในกระบวนการทับซ้อนข้อมูล ก่อนประมวลผลและการวิเคราะห์อัตโนมัติ
3. รายงานผลผ่าน Dashboard
เมื่อระบบวิเคราะห์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะแสดงผลการวิเคราะห์ผ่านแผนที่จำลอง หรือ Dashboard ของแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติของท้องถิ่น ซึ่งระบบนี้ผู้มีสิทธิ์ใช้งานจะสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นภาพที่เข้าใจได้ง่าย สั่งการ และใช้ประโยชน์ต่อได้ทันที ทั้งพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ปลอดภัย ผลกระทบที่จะได้รับ ข้อมูลครัวเรือน การคาดการณ์ปริมาณและทิศทางของน้ำท่วม แนวทางในการจัดลำดับความช่วยเหลือ รวมถึงข้อมูลเรียลไทม์ของโทรมาตรตรวจวัดระดับน้ำอัตโนมัติและภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ด้วย
ที่สำคัญระบบบริหารจัดการภัยพิบัติของเบดร็อค อนาไลติกส์ ยังมีระบบแจ้งเตือนข้อมูลต่าง ๆ เมื่อถึงสถานะ จุด หรือเส้นที่ผู้ใช้งานกำหนดไว้ตามที่แต่ละท้องถิ่นต้องการ ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเฝ้าระวังหรือตรวจสอบอยู่หน้าจอตลอดเวลา อีกทั้งยังมีระบบสั่งงานไปยังอุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้งไว้ที่สถานีสนามด้วย
4. สนับสนุนการปฏิบัติการ
จากข้อมูลที่รายงานใน Dashboard ของแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติของท้องถิ่น ทำให้ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่หน้างานสามารถสั่งการและดำเนินการต่ออย่างรวดเร็ว เช่น นำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมไปแจ้งเตือนภัยผ่านเสียงตามสาย หรือช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ถึงสถานการณ์และแนวทางในการปฏิบัติตัว หรือใช้ในการประชุมวางแผนการปฏิบัติงานบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมระหว่างศูนย์บัญชาการข้อมูล เจ้าหน้าที่หน้างาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทางออนไลน์ โดยทุกคนเห็นข้อมูลเรียลไทม์ที่ตรงกัน เป็นต้น
จุดเด่นของแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติในการช่วยบริหารจัดการน้ำท่วม
แพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ จากเบดร็อค อนาไลติกส์ ช่วยสนับสนุนงานบริหารจัดการน้ำท่วมและลดผลกระทบจากน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 5 จุดเด่นสำคัญ
1. พยากรณ์หรือคาดการณ์น้ำท่วมรายพื้นที่ได้แม่นยำ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่มาจัดเก็บและจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ ประกอบกับมีระบบอัตโนมัตินำข้อมูลทั้งย้อนหลังและปัจจุบันมาทับซ้อนกันได้หลายชั้นข้อมูล จึงทำให้สามารถพยากรณ์น้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ
2. ใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเชื่อมโยงทุกกระบวนการในการบริหารจัดการน้ำท่วม ตั้งแต่เทคโนโลยีในการรับ-ส่งข้อมูล การรวบรวม การวิเคราะห์ แจ้งเตือน และแสดงผล ทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง ที่สำคัญช่วยลดภาระและลดโอกาสผิดพลาดจากการป้อนหรือส่งต่อข้อมูลด้วยมนุษย์
3. ระบุข้อมูลผู้อยู่อาศัยในครัวเรือนและคำนวณเส้นทางการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลของเบดร็อค อนาไลติกส์ จึงสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการให้รายละเอียดของผู้อยู่อาศัย การจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือ และการคำนวณเส้นทางการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
4. ดูรายงานผลผ่าน Dashboard ได้ทุกที่ทุกเวลา ผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มจะสามารถเข้าถึง Dashboard แพลตฟอร์มภัยพิบัติได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกระบบปฏิบัติการ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมให้ยุ่งยาก เนื่องจากแพลตฟอร์มมีรูปแบบเป็น Web Application หรือโปรแกรมที่ออกแบบให้สามารถใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันแบบเต็มลงเครื่อง
5. มีระบบการแจ้งเตือนอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งค่าและกำหนดแจ้งเตือนค่าต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็วและเหมาะกับพื้นที่มากขึ้น
หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดต้องการยกระดับการบริหารจัดการน้ำท่วมให้ครบวงจร ป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแพลตฟอร์มจัดการภัยพิบัติ จากเบดร็อค อนาไลติกส์ สามารถติดต่อได้ที่: [email protected] หรือ Line หรือ Facebook