สำรวจ 10 เมืองอัจฉริยะอันดับโลกปี 2568 จาก IMD เมืองไหนโครงสร้างพื้นฐานดี เทคโนโลยีเด่น พัฒนาเมืองได้เยี่ยม

ปีนี้เมืองอัจฉริยะของโลกมีเมืองใดบ้าง เมืองในประเทศไทยติดอันดับที่เท่าไร ล่าสุดสถาบัน IMD จากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เผยรายงาน IMD Smart City Index 2025 ซึ่งจัดอันดับเมืองอัจฉริยะประจำปี พ.ศ. 2568 จากการประเมินและสำรวจมุมมองของประชาชนกว่า 146 เมืองทั่วโลก ใน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ สุขภาพ ความปลอดภัย การเดินทาง สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต พร้อมมิติด้านมนุษยธรรม มาดูกันว่า 10 อันดับแรกของปีนี้ มีเมืองใดที่ก้าวล้ำทั้งความพร้อมของเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี
1. เมืองซูริค (Zurich) สวิตเซอร์แลนด์
ซูริค เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญของประเทศ โดดเด่นด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย ระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกัน และการใช้เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ในการบริหารจัดการเมือง เช่น การจราจร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
ซูริคได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองอัจฉริยะอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563) และในปีนี้ ยังเป็นปีแรกที่ได้รับการประเมินระดับ AAA ครบทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความเป็นเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี สะท้อนถึงความก้าวหน้าในหลายด้าน ทั้งสุขภาพ ความปลอดภัย การเดินทาง การศึกษา กิจกรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน
จากการประเมินพบว่า เมืองซูริคได้รับคะแนนสูงสุดในด้านการดูแลสุขภาพ การรีไซเคิล ระบบขนส่งสาธารณะ การจ้างงานใหม่ การมีส่วนร่วมทางการเมือง และความเร็วอินเทอร์เน็ต เป็นต้น อีกทั้งชาวเมืองซูริคยังให้ความสำคัญกับการมีที่อยู่อาศัยที่ราคาจับต้องได้มากที่สุด (76.6%) ตามด้วยปัญหาการจราจรติดขัด (58.1%) และความปลอดภัยในเมือง (32.4%)
2. เมืองออสโล (Oslo) นอร์เวย์
ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ โดดเด่นในด้านการนำเทคโนโลยีมาผสานกับแนวคิดความยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ตรงตามความต้องการของประชาชน สภาพแวดล้อมเมืองที่เป็นมิตร เมืองไม่แออัด และเข้าถึงบริการพื้นฐานได้อย่างเท่าเทียม
ปีนี้ออสโลได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองอัจฉริยะอันดับ 2 ของโลกติดต่อกัน 5 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563) และปีนี้ยังได้รับคะแนนระดับ AAA ครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี
จากการสำรวจพบว่า ชาวเมืองออสโลให้ความสำคัญสูงสุดกับการมีที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (73%) รองลงมาคือระบบบริการสุขภาพ (38%) และความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน (37%)
3. เจนีวา (Geneva) สวิตเซอร์แลนด์
เจนีวา เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ที่ติดอันดับเมืองอัจฉริยะระดับโลก โดยปีนี้ขยับจากอันดับ 4 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 พร้อมทั้งได้รับการประเมินระดับ AAA ครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี
เมืองนี้มีความโดดเด่นเรื่องการจัดการพื้นที่สีเขียว การเข้าถึงการศึกษา การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมเมือง และระบบตั๋วออนไลน์สำหรับการขนส่งสาธารณะ โดยพบว่าชาวเจนีวาให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพง (78%) รองลงมาคือปัญหาการจราจร (53%) และการว่างงาน (40%)
4. ดูไบ (Dubai) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ดูไบเป็นเมืองที่มาแรงมากในปีนี้ โดยขยับจากอันดับ 12 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 4 และได้รับคะแนนระดับ A ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี
จุดเด่นของดูไบคือการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การนัดหมายแพทย์ออนไลน์ ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ และการระบุตัวตนออนไลน์ ซึ่งช่วยให้บริการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งพบว่าประชาชนในเมืองให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา (77%) ปัญหาการจราจร (51%) และการว่างงาน (51%)
5. อาบูดาบี (Abu Dhabi) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อาบูดาบี เป็นอีกเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ขยับจากอันดับ 10 ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ในปีนี้ พร้อมได้รับการประเมินระดับ A ในทั้ง 3 ด้านหลักเช่นเดียวกับดูไบ
เมืองนี้มีความโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ เช่น ระบบขนส่ง การแพทย์ การศึกษา และบริการภาครัฐที่ทันสมัย โดยจากผลสำรวจ ชาวอาบูดาบีให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (71%) รองลงมาคือปัญหาการว่างงาน (50%) และการส่งเสริมการจ้างงาน (49%)
6. ลอนดอน (London) อังกฤษ
ลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองอัจฉริยะอันดับ 6 ของโลกในปี พ.ศ. 2568 โดยได้คะแนนระดับ AAA ในด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี และระดับ AA ในด้านความเป็นเมืองอัจฉริยะ
จุดเด่นของลอนดอนอยู่ที่การเปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลเมืองอย่างโปร่งใส การใช้ Big Data เพื่อยกระดับบริการสาธารณะ การพัฒนาพื้นที่สีเขียว และอินเทอร์เน็ตสาธารณะฟรี โดยจากผลสำรวจพบว่า ชาวลอนดอนให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (75%) รองลงมาเป็นการบริการด้านสุขภาพ (57%) และความปลอดภัย (45%)
7. โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เดนมาร์ก
โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก หนึ่งในเมืองอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี โดยปีนี้ได้อันดับที่ 7 และได้รับคะแนนระดับ AAA ในด้านเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐาน และระดับ AA ในด้านเทคโนโลยี
โคเปนเฮเกน ถือเมืองนี้เป็นต้นแบบด้านความยั่งยืน มีระบบรีไซเคิลที่เข้มแข็ง พื้นที่สีเขียวกระจายทั่วเมือง มีบริการด้านสุขภาพและการศึกษาที่เท่าเทียม รวมทั้งมีความปลอดภัยในระดับสูง ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า ประชาชนในเมืองให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (82%) ตามด้วยปัญหาการจราจร (39%) และการขนส่งสาธารณะ (33%)
8. แคนเบอร์รา (Canberra) ออสเตรเลีย
แคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ชาญฉลาดในอันดับที่ 8 ของปีนี้ โดยได้รับคะแนนระดับ AAA ในด้านเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐาน และระดับ A ด้านเทคโนโลยี
จุดแข็งของเมืองแคนเบอร์ราอยู่ที่เป็นเมืองคุณภาพอากาศดี การศึกษาที่เท่าเทียม และการให้บริการสาธารณสุขที่ทั่วถึง โดยชาวเมืองให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (85%) ตามด้วยการบริการด้านสุขภาพ (64%) และการขนส่งสาธารณะ (42%)
9. สิงคโปร์ (Singapore)
สิงคโปร์ แม้จะร่วงจากอันดับ 5 มาอยู่ที่ 9 แต่ยังคงได้รับการประเมินอยู่ในระดับ AAA ในทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความเป็นเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี
สิงคโปร์ขึ้นชื่อในเรื่องของการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับการบริหารจัดการเมืองแบบครบวงจร โดยเมืองได้รับคะแนนสูงในด้านสุขภาพ การศึกษา ความปลอดภัย ขนส่งสาธารณะ อากาศสะอาด ทักษะของประชากรด้านดิจิทัล อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการบริหารจัดการเมืองและการบริการสาธารณะแบบอัจฉริยะ ขณะที่ประชาชนให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา (80%) รองลงมาเป็นการตอบสนองการจ้างงาน (51%) และการบริการด้านสุขภาพ (50%)
10. โลซาน (Lausanne) สวิตเซอร์แลนด์
โลซาน อีกหนึ่งเมืองจากสวิตเซอร์แลนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองอัจฉริยะของโลกปี 2568 ในอันดับที่ 10 ได้รับคะแนนประเมินระดับ AAA ด้านเมืองอัจฉริยะ และระดับ AA ด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี
จุดเด่นของโลซานคือการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ ความเสมอภาคทางการศึกษา พื้นที่สีเขียว ทักษะทางด้านไอที และการใช้เทคโนโลยีในการให้บริการสาธารณะ โดยจากผลสำรวจพบว่า ชาวเมืองโลซานให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (80%) รองลงมาเป็นปัญหาการจราจร (56%) และความปลอดภัย (46%)
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมืองอัจฉริยะอันดับที่ 86 ของโลก
สำหรับประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ติดอันดับเมืองอัจฉริยะปี 2568 อันดับที่ 86 จาก 146 เมืองที่ทำการสำรวจ โดยได้รับการประเมินอยู่ในระดับ CC ด้านเมืองอัจฉริยะ, ระดับ CCC ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านเทคโนโลยีได้ระดับ B คะแนนที่โดดเด่นของกรุงเทพฯ คืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การบริการทางการแพทย์ และแพลตฟอร์มการให้บริการทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ประชาชนในเมืองให้ความสำคัญในเรื่องมลพิษทางอากาศ (63%) รองลงมาเป็นความปลอดภัย (52%) และการทุจริต (51%)
เบดร็อค อนาไลติกส์ ก้าวแรกสู่เมืองอัจฉริยะของท้องถิ่น
จากการจัดอันดับเมืองอัจฉริยะทั่วโลกจะเห็นได้ว่า ความต้องการของประชาชนมักให้ความสำคัญในเรื่องที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา ความปลอดภัย การเข้าถึงบริการสุขภาพ การจ้างงาน และระบบขนส่งที่ดี ซึ่งเบดร็อค อนาไลติกส์ เข้าใจถึงความท้าทายนี้ จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนท้องถิ่นในการยกระดับคุณภาพชีวิต การบริการ และการบริหารจัดการเมืองในทุกมิติ เช่น
- แพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง ศูนย์กลางข้อมูลเมืองที่ครบถ้วน ทันสมัย ช่วยวางรากฐานการพัฒนาเมือง ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงการวางแผนรับมือภัยพิบัติ
- ระบบอนุญาตและควบคุมอาคารอัจฉริยะ ช่วยบริหารจัดการคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารผ่านระบบออนไลน์ ตรวจเอกสารด้วย AI มาพร้อมระบบตรวจสอบและติดตามสถานะเพื่อเพิ่มความโปร่งใส
- แพลตฟอร์มสุขภาพอัจฉริยะ ระบบรวบรวมการปฏิบัติงานและข้อมูลด้านสาธารณสุขชุมชนในสังกัดของท้องถิ่นไว้ในระบบเดียว พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์
- แพลตฟอร์มภาษีอัจฉริยะ ระบบจัดการงานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีป้ายแบบครบวงจร ที่มี AI ช่วยจัดทำและตรวจสอบข้อมูล พร้อมสร้างแผนที่ภาษีดิจิทัล และส่งข้อมูลสู่ทะเบียนภาษีแบบอัตโนมัติ ช่วยให้วิเคราะห์และประเมินภาษีได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรม
- CITIZEN One Stop Service ระบบเชื่อมโยงทุกบริการประชาชนไว้ในที่เดียว ตั้งแต่รับเรื่อง แจ้งเตือน ตอบคำถาม จัดลำดับเรื่อง และส่งต่อภายในองค์กรแบบอัตโนมัติ
คงจะเห็นจาก 10 อันดับเมืองอัจฉริยะปี พ.ศ. 2568 (Smart City 2025) แล้วว่าการสร้างเมืองอัจฉริยะที่เป็นรูปธรรม จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ จึงจะสามารถสร้างเมืองน่าอยู่ที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ เบดร็อค อนาไลติกส์ พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมวางรากฐานเมืองอัจฉริยะไปกับท้องถิ่นของคุณ ติดต่อได้ที่ contact@bedrockanalytics.ai หรือ LINE หรือ Facebook